วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สวัสดีครับนักเรียน

เเนวข้อสอบปลายภาคลองหัดทำดูนะครับ
ให้นักเรียนอ่านโจทย์ที่กำหนดและเลือก กากบาทข้อที่ถูกที่สุดลงในกระดาษคำตอบ ข้อสอบเป็นแบบปรนัย มีทั้งหมด 30 ข้อ อนุญาตให้นักเรียนใช้เครื่องคิดเลขได้ และ เปิดหนังสือเรียนได้
1. ตัวต้านทานในอิเล็คทรอนิคส์ทำหน้าที่อะไร
ก. ต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้า
ข. เก็บประจุไฟฟ้า
ค. เหนี่ยวนำไฟฟ้า
ง. แปลงสัญญาณไฟฟ้า
2. ข้อใดไม่ใช่ชนิดของตัวต้านทาน
ก. แบบค่าคงที่
ข. แบบเปลี่ยนค่าได้
ค. แบบปรับค่าได้
ง. แบบสูญญากาศ
3. ข้อใดไม่ใช่ตัวต้านทานชนิดค่าคงที่
ก. คาร์บอนผสม
ข. ฟิล์มคาร์บอน
ค. แอลดีอาร์
ง. แผ่นฟิล์มบาง
8. ความต้านทาน 1.5 kโอห์ม มีค่ากี่โอห์ม

ก. 15 โโอห์ม ข. 150 ข. 150โอห์ม
ค. 1500 โอห์ม ง. 15000 โอห์ม
9. สีม่วงในแถบสีที่ 1 มีค่าเท่าใด
ก. 5 ข. 6
ค. 7
ง. 8
10. สีน้ำตาลในแถบสีที่ 3 ของตัวต้านทานมีค่าเท่าใด

ก. คูณ 1

ข. คูณ 10
ค. คูณ 100 ง. คูณ 1000

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

สำหรับผู้ใช้งาน Microsoft Office 2007 ทุกท่าน
ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่มีการใช้ Microsoft Office 2007 ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint แต่ยังมีเพื่อนๆ รวมงานของคุณอีกหลายคนที่ต้องใช้โปรแกรม Microsoft Office 2003 หรือต่ำว่า ให้ระวังไว้น่ะครับว่า ไฟล์ที่คุณส่งไปให้เขาเหล่านั้น อาจเปิดไม่ได้ และไม่สมบูรณ์
วิธีการปรับแต่ง Office 2007 ให้ Save เป็น Office 2003
1. เปิดโปรแกรมที่ต้องการ เช่น Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint เป็นต้น
2. สมมติว่าคุณเปิดโปรแกรม Microsoft Word
3. คลิกปุ่ม Office Button
4. คลิก Word Options (ปุ่มด้านล่าง)
5. ให้คลิกเมนู ด้านซ้าย "Save"
6. ในหัวข้อ "Save files in this file format" ให้คลิกเลือก "Word 97-2003 Document (*.doc)"
ในครั้งต่อไป เวลาเรา Save ไฟล์ โปรแกรมจะทำการบันทึกอัตโนมัติเป็นไฟล์เวอร์ชั่นที่เราเลือกครับ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เสียงลือ..เสียงเล่าอ้าง วันสิ้นโลก

รอย ต่อคืนวันที่ 17 ไปถึงช่วงย่ำรุ่งวันที่ 18 พ.ย. 2552 นี้ แหงนมองขึ้นไปบนเวิ้งฟ้ายามราตรีจะมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ฝนดาวตก” อีกครั้ง เป็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (Leonid Meteor shower) หรือ “ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต” ซึ่งสามารถที่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า...

นี่เป็นอีกหนึ่ง “ปรากฏการณ์แห่งดาว” ที่น่าสนใจ

และเกิดขึ้นในช่วง “เสียงลือวันสิ้นโลก” เซ็งแซ่ ??

ทั้งนี้ กับเสียงลือ “วันสิ้นโลก” ที่มีออกมาอีกครั้งในระยะนี้ โดยสรุปก็คือ... วันที่ 21 ธ.ค. ปี พ.ศ. 2555 จะเป็นวันสิ้นโลก ?? จากการคำนวณไว้ของชนเผ่ามายา ชนเผ่าโบราณที่เชื่อว่าเคยมีอาณา จักรที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 3-16 ก่อนคริสตกาล และทรงภูมิปัญญามาก แต่กลับสูญหายไปอย่างลึกลับ

วันสิ้นโลกที่มีเสียงลือโดยอ้างอิงถึงชนเผ่ามายานี้ บ้างก็ว่า... จะเกิดขึ้นเพราะการกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อันเนื่องจากการระเบิดลุกจ้าบนผิวดวงอาทิตย์ จนก่อเกิดภัยธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก ?, บ้างก็ว่า...จะเกิดขึ้นเพราะดวงอาทิตย์โคจรในแนวเดียวกับดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์ จนส่งผลมหาศาลต่อจุดดับของดวงอาทิตย์ ถึงขั้นที่ส่งอิทธิพลมาทำลายล้างโลก ?, บ้างก็ว่า...จะเกิดเพราะการ เรียงตัวในแนวเดียวของดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดวงอาทิตย์ และเป็นแนวเดียวกันกับหลุมดำที่มีมวลมหาศาล แล้วจะส่งอิทธิพลให้โลกย่อยยับ ?, บ้างก็ว่า...จะเกิดเพราะดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก ? แถม พ่วงด้วยเสียงลือที่ว่า...สิ่งมีชีวิตนอกโลกเป็นผู้มาบอกไว้ ?

เหล่านี้เป็นเสียงลือ “วันสิ้นโลก” ที่ว่าจะเกิดในอีก 3 ปีเศษ

ขณะที่บางคนก็ว่าที่ลือ ๆ กันนี้เกี่ยวโยงถึงหนังบางเรื่อง ??

อย่างไรก็ตาม เสียงลือ “วันสิ้นโลก” นี้ ใช่ว่าจะเพิ่งมีในระยะนี้ แต่เคยมีมาก่อนแล้ว และว่ากันถึงเสียงลือในช่วงปี 2552 นี้ ที่ไม่ได้โยงถึงเผ่ามายา แต่เป็นช่วงปีเดียวกัน ก็เช่น... ปี พ.ศ. 2555 จะเกิดมหาอุทกภัยน้ำท่วมโลก ?? โดยมีการลือต่อ ๆ กัน รวมถึงลือในอินเทอร์เน็ต ว่าเรื่องนี้ผู้ที่เปิดเผยเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ทำงานในองค์การนาซาของสหรัฐ อเมริกา มากไปกว่านั้น...ลือกันว่าทางนาซา มีการสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลกแล้ว ? มากไปกว่านั้นอีก...ลือกันว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาช่วยงานนาซาโดยสื่อสารด้วย โทรจิต มาถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดจากน้ำท่วมโลก และมนุษย์ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะรอด ?

ย้อนกลับไปในช่วงเวลาอดีตกาล ก็มีความเชื่อเรื่อง “วันสิ้นโลก” แฝงอยู่ในส่วนต่าง ๆ ไม่น้อย รวมถึงกับความเชื่อทางลัทธิ-ทางศาสนา และกับโลกยุคปัจจุบันก็มีเสียงลือเรื่อง “วันสิ้นโลก” เป็นระยะ ๆ

ปี พ.ศ. 2371 มีนักดาราศาสตร์เยอรมันคำนวณว่าจะมีดาว หางดวงหนึ่งโคจรผ่านโลกในระยะใกล้มากจนอากาศบนโลกจะเป็นพิษเพราะฝุ่นละออง ดาวหาง ผู้คนจำนวนหนึ่งก็แตกตื่น-ร่ำลือว่าจะเป็น “วันสิ้นโลก” เป็นจุดจบมนุษยชาติ ?, ปี พ.ศ. 2405 นักดาราศาสตร์อเมริกันสองคนคำนวณว่า วันที่ 14 ส.ค. ปี พ.ศ. 2669 หรืออีก 117 ปีจากนี้ จะมีดาวหางดวงหนึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางราว 10 กิโลเมตรโคจรมาใกล้โลก ซึ่งดาวหางเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดนี้ถ้าชนโลกจะร้ายแรงเท่าระเบิดนิวเคลียร์ 1 ล้านลูก และแม้นักดาราศาสตร์จะชี้ว่าโอกาสชนโลกมีเพียง 0.01% แต่ก็ไม่วายเกิดเสียงลือในคนจำนวนหนึ่ง...เรื่อง “วันสิ้นโลก”

อีกกรณี... กรณีนี้เป็นดาราศาสตร์ยุคใหม่ คือ วันที่ 13 เม.ย. ปี พ.ศ. 2572 วันสงกรานต์ของไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า ดาวเคราะห์น้อยชื่ออะโพฟิสจะโคจรผ่านมาใกล้โลกมาก ๆ เมื่อเทียบ กับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น ๆ ที่มีวงโคจรใกล้โลก ที่มีการค้นพบไปก่อนหน้า ซึ่งอัตราส่วนของโอกาสที่จะชนโลกคือ 1 ใน 38 หรือ 2.6% ซึ่งแม้นักดาราศาสตร์จะคำนวณได้ว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะไม่ชนโลกหรือดวง จันทร์แน่นอน โดยจะแค่เฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างราว 64,400 กิโลเมตร แต่ข่าวนี้ก็จุดกระแส “วันสิ้นโลก” เช่นกัน

ทั้งนี้ เรื่อง “วันสิ้นโลก” วันนั้นวันนี้ จนถึงปัจจุบันก็ต้องเน้นว่า “เป็นแค่เสียงลือ” กับโอกาสเป็นไปได้แน่ ๆ นั้นในทาง ดาราศาสตร์-วิทยาศาสตร์ยังไม่มีการระบุชัด อย่างไรก็ตาม ถ้าจะว่ากันถึงเรื่อง “หายนะของโลก” แล้วละก็...ในทางโหราศาสตร์ก็มีคำพยากรณ์ และจะว่าไปแล้ว “โอกาสเป็นไปได้” ก็ใช่ว่าจะเป็น 0%

“ดูจากการโคจรของดาว เทียบกับที่เคยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แล้ว มีโอกาสเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ในอีก 6 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2558) และสถานการณ์ก็ชวนให้เกิดได้ด้วย ชนวนสงครามน่าจะมาจากการที่ประชากรทั่วโลกอดอยาก ภัยธรรมชาติคุกคามหนัก น้ำท่วมใหญ่ในหลายประเทศ และกลุ่มก่อการร้ายขยาย พื้นที่ก่อการไปทั่วโลก จนประเทศมหาอำนาจต้องประกาศสงครามที่ เป็นสงครามนิวเคลียร์ จะเป็นการล้างเผ่าพันธุ์เพื่อสร้างอาณาจักรโลก ใหม่” ...นี่เป็นการทายทักของ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ประธานสถาบัน โหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ ซึ่งใครจะเชื่อ-ไม่เชื่อก็คงสุดแท้แต่ ?!?

ประเด็นคือ...ก็ “มนุษย์” นี่แหละที่ทำร้ายโลกอยู่ทุกวัน

ถ้าจะมี “วันสิ้นโลก...เพราะมนุษย์” ก็ย่อมเป็นไปได้ !!.